ตีโจทย์ให้แตก! เทคนิคพิชิต Inference Questions (คำถามตีความ) ใน TOEIC Part 7

“`html

TOEIC Part 7: Reading Comprehension ถือเป็นส่วนที่ท้าทายสำหรับผู้สอบหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคำถามประเภท Inference Questions หรือ คำถามตีความ ซึ่งไม่ได้ถามหาข้อมูลที่ระบุไว้ตรงๆ ในบทความ แต่ต้องการให้เรา “อ่านระหว่างบรรทัด” และสรุปความจากข้อมูลที่ให้มา บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเทคนิคการรับมือกับคำถามประเภทนี้ เพื่อให้คุณสามารถทำคะแนนในส่วนนี้ได้อย่างมั่นใจ

ตีโจทย์ให้แตก! ทำความรู้จัก Inference Questions

Inference Questions คือ คำถามที่ทดสอบความสามารถในการอนุมาน หรือตีความข้อมูลจากสิ่งที่อ่าน คำตอบของคำถามประเภทนี้จะไม่ได้เขียนบอกไว้ตรงๆ ในเนื้อเรื่อง แต่เราต้องใช้ข้อมูลที่ปรากฏในบทความมาเป็น “หลักฐาน” หรือ “คำใบ้” เพื่อสรุปไปสู่คำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุด

คำสำคัญที่มักปรากฏในคำถามประเภทนี้ ได้แก่:

• What can be inferred about…? (สามารถอนุมานอะไรได้เกี่ยวกับ…?)
• What does the article/email/memo suggest about…? (บทความ/อีเมล/บันทึก แนะนำ/บอกเป็นนัยเกี่ยวกับอะไร…?)
• It is implied that… (มีความหมายโดยนัยว่า…)
• What is most likely true about…? (อะไรน่าจะเป็นจริงมากที่สุดเกี่ยวกับ…?)
• The author probably feels/believes that… (ผู้เขียนน่าจะรู้สึก/เชื่อว่า…)

ความท้าทายของคำถามประเภทนี้คือ ผู้สอบมักจะ:

• คิดไปเอง หรือใช้ความรู้เดิมนอกเหนือจากที่บทความให้มา
• เลือกคำตอบที่ดูเหมือนจะใช่ แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนในบทความ
• ตีความเกินเลย หรือเลือกคำตอบที่ใช้คำพูดที่รุนแรง/แน่นอนเกินไป (เช่น always, never, all)

เทคนิคพิชิต Inference Questions ทีละขั้นตอน

เพื่อให้การตอบคำถาม Inference มีประสิทธิภาพและแม่นยำ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. อ่านคำถามก่อน: ทำความเข้าใจว่าคำถามต้องการให้เราตีความเกี่ยวกับ “อะไร” หรือ “ใคร” การรู้เป้าหมายก่อนจะช่วยให้เราอ่านบทความได้อย่างมีจุดมุ่งหมาย
2. หา Keywords ในคำถาม: วงกลมหรือขีดเส้นใต้คำสำคัญในคำถาม (เช่น ชื่อคน สถานที่ หัวข้อเฉพาะ) เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงในการสแกนหาข้อมูลในบทความ
3. สแกนหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องในบทความ: ใช้ Keywords ที่ได้จากข้อ 2 ในการกวาดตาหาประโยคหรือย่อหน้าที่น่าจะเกี่ยวข้องกับคำถาม
4. อ่านส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด: เมื่อเจอส่วนที่น่าจะใช่ ให้อ่านอย่างละเอียด ทำความเข้าใจบริบทและความหมายที่ซ่อนอยู่ มองหา “คำใบ้” (clues) ที่ผู้เขียนทิ้งไว้
5. อย่าหาคำตอบตรงๆ: จำไว้ว่านี่คือคำถามตีความ คำตอบจะไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน แต่ต้องเป็นการ “สรุป” จากข้อมูลที่อ่านเจอ
6. พิจารณาตัวเลือกทั้งหมด: อ่านตัวเลือก (A, B, C, D) อย่างรอบคอบ
7. ตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องออก: ใช้เทคนิคการกำจัดตัวเลือกที่ไม่น่าใช่ (Elimination) โดยมองหาตัวเลือกที่:
   • ขัดแย้งกับข้อมูลในบทความ
   • กล่าวถึงข้อมูลที่ไม่ปรากฏในบทความเลย
   • ใช้คำที่แสดงความแน่นอนมากเกินไป (always, never, all, none, only)
   • ดูเป็นจริงในโลกภายนอก แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนในบทความ
8. เลือกคำตอบที่ “น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด” (Most Likely): คำตอบที่ถูกต้องคือตัวเลือกที่มีหลักฐานสนับสนุนจากในบทความมากที่สุด แม้จะไม่ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนก็ตาม ต้องเป็นข้อสรุปที่สมเหตุสมผลที่สุดจากข้อมูลที่ให้มา

ข้อควรจำ

• อิงจากบทความเท่านั้น: ห้ามใช้ความรู้ส่วนตัวหรือความคิดเห็นส่วนตัวในการตอบเด็ดขาด ทุกอย่างต้องอนุมานจากสิ่งที่เขียนไว้ในบทความ
• ระวังคำที่แสดงความสุดโต่ง: คำอย่าง always, never, all, none, only, must มักจะเป็นตัวเลือกที่ผิดในคำถาม Inference เพราะการตีความส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่ข้อสรุปที่ตายตัว 100%
• ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: การทำความคุ้นเคยกับคำถามประเภทนี้บ่อยๆ จะช่วยให้คุณจับทางและพัฒนาทักษะการตีความได้ดียิ่งขึ้น

การพิชิต Inference Questions ใน TOEIC Part 7 ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณเข้าใจลักษณะของคำถามและมีเทคนิคในการรับมือที่ดี การฝึกฝนทำโจทย์ อ่านอย่างละเอียด และมองหา “คำใบ้” ที่ซ่อนอยู่ จะช่วยให้คุณสามารถตีโจทย์แตกและคว้าคะแนนในส่วนนี้มาครองได้สำเร็จ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบครับ!

“`