Blog
เทคนิคบริหารเวลาสอบ TOEIC 2 ชั่วโมงเต็ม: ทำทันทุกพาร์ท ไม่ต้องเดามั่ว
- May 4, 2025
- Posted by: AJ.BANK XPERT ENGLISH
- Category: TOEIC
“`html
การสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นบททดสอบที่วัดทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันและการทำงาน ซึ่งมีเวลาจำกัดเพียง 2 ชั่วโมง สำหรับคำถามทั้งหมด 200 ข้อ (แบ่งเป็นพาร์ทการฟัง 100 ข้อ และพาร์ทการอ่าน 100 ข้อ) ด้วยเวลาที่จำกัดและจำนวนข้อที่มาก ทำให้ผู้สอบหลายคนประสบปัญหาทำข้อสอบไม่ทันเวลา โดยเฉพาะในพาร์ทการอ่าน (Reading Comprehension) จนต้องใช้วิธีเดาสุ่มในข้อที่เหลือ ซึ่งอาจทำให้พลาดคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย บทความนี้จะแนะนำเทคนิคบริหารเวลาสอบ TOEIC เพื่อให้คุณสามารถทำข้อสอบได้ทันทุกพาร์ท และไม่ต้องเดามั่วในช่วงท้าย
เทคนิคบริหารเวลาสอบ TOEIC 2 ชั่วโมงเต็ม: ทำทันทุกพาร์ท ไม่ต้องเดามั่ว
การบริหารเวลาที่ดีเริ่มต้นตั้งแต่การทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบและการวางแผนก่อนสอบ ต่อไปนี้คือเทคนิคและข้อแนะนำสำหรับแต่ละพาร์ท:
หลักการทั่วไปที่ควรจำ:
- ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ: การรู้ว่าแต่ละพาร์ทมีกี่ข้อ ลักษณะคำถามเป็นอย่างไร จะช่วยให้คุณกะเวลาและวางแผนได้ดียิ่งขึ้น
- ฝึกจับเวลาเหมือนจริง: ลองทำข้อสอบเก่า (Mock Exam) โดยจับเวลาตามจริง จะช่วยให้รู้ว่าตัวเองใช้เวลาแต่ละส่วนเท่าไหร่ และส่วนไหนที่ต้องปรับปรุงความเร็ว
- อย่าจมอยู่กับข้อที่ทำไม่ได้: หากเจอข้อที่ยากและคิดว่าต้องใช้เวลานาน ให้ทำเครื่องหมายไว้แล้วข้ามไปทำข้ออื่นก่อน หากมีเวลาเหลือค่อยกลับมาทบทวน อย่าเสียเวลาอยู่กับข้อเดียวจนกระทบข้ออื่นๆ
- ฝนคำตอบให้เร็ว: การฝนกระดาษคำตอบก็ใช้เวลาส่วนหนึ่ง ควรฝึกฝนให้คล่องแคล่วแต่ยังคงความถูกต้อง
การบริหารเวลาในแต่ละพาร์ท:
1. พาร์ทการฟัง (Listening Comprehension) – 45 นาที (100 ข้อ)
พาร์ทนี้เวลาจะถูกควบคุมโดยไฟล์เสียง หน้าที่หลักของเราคือการใช้เวลาช่วงสั้นๆ ก่อนและระหว่างการฟังให้เกิดประโยชน์สูงสุด:
- Part 1: Photographs (6 ข้อ): ใช้เวลาช่วงที่ผู้อธิบายคำสั่ง (Directions) กำลังพูด แอบดูภาพรวมของรูปภาพแต่ละรูปอย่างรวดเร็ว คาดเดาว่าคำศัพท์หรือสถานการณ์ที่น่าจะเกี่ยวข้องคืออะไร
- Part 2: Question-Response (25 ข้อ): ตั้งสมาธิให้ดี ฟังคำถามให้ชัดเจน จับ Keyword สำคัญ (Who, What, Where, When, Why, How) และระวังคำตอบที่ใช้คำเสียงคล้าย (Sound-alike) แต่ความหมายผิด หรือคำตอบที่ไม่ตรงคำถาม
- Part 3: Conversations (39 ข้อ / 13 บทสนทนา): เทคนิคสำคัญที่สุด! ใช้เวลาช่วง Directions และช่วงว่างสั้นๆ ระหว่างแต่ละชุดคำถาม *อ่านคำถามและตัวเลือก (Choices) ล่วงหน้าเสมอ* การอ่านคำถามก่อนจะช่วยให้รู้ว่าต้องตั้งใจฟังข้อมูลส่วนไหนเป็นพิเศษในบทสนทนา
- Part 4: Talks (30 ข้อ / 10 บทพูด): ใช้เทคนิคเดียวกับ Part 3 คือ *อ่านคำถามและตัวเลือกก่อนฟัง* เพื่อจับประเด็นสำคัญที่ต้องหาคำตอบจากบทพูดคนเดียว
ข้อควรจำสำหรับพาร์ทฟัง: ส่วนนี้เวลาค่อนข้างตายตัวตามไฟล์เสียง สิ่งสำคัญคือสมาธิและการใช้เวลาว่างระหว่างข้อให้คุ้มค่าที่สุดในการอ่านคำถามล่วงหน้า
2. พาร์ทการอ่าน (Reading Comprehension) – 75 นาที (100 ข้อ)
นี่คือส่วนที่ผู้สอบต้องบริหารจัดการเวลาด้วยตนเองอย่างเข้มงวดที่สุด และเป็นส่วนที่คนส่วนใหญ่มักทำไม่ทัน ควรแบ่งเวลาโดยประมาณดังนี้:
-
Part 5: Incomplete Sentences (30 ข้อ) – แนะนำเวลา: ประมาณ 10-15 นาที
- เน้นวัดความรู้ด้าน Grammar และ Vocabulary เป็นหลัก
- หลายข้อไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งประโยค แค่ดูคำรอบๆ ช่องว่างก็สามารถเลือกคำตอบที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์หรือความหมายได้
- ตั้งเป้าทำให้เสร็จเร็วที่สุด เฉลี่ยข้อละไม่เกิน 20-30 วินาที
-
Part 6: Text Completion (16 ข้อ / 4 บทอ่าน) – แนะนำเวลา: ประมาณ 8-10 นาที
- คล้าย Part 5 แต่ต้องอาศัยการอ่านบริบทของทั้งย่อหน้า เพื่อเลือกคำศัพท์หรือประโยคที่เหมาะสมที่สุดมาเติมในช่องว่าง
- อ่านเร็วๆ เพื่อจับใจความโดยรวมของแต่ละ Passage
- ตั้งเป้าข้อละประมาณ 30-45 วินาที
-
Part 7: Reading Comprehension (54 ข้อ) – แนะนำเวลา: เวลาที่เหลือทั้งหมด ประมาณ 50-55 นาที
- Single Passages (29 ข้อ): บทความเดี่ยวๆ พร้อมชุดคำถาม
- Multiple Passages (25 ข้อ): บทความ 2-3 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกัน (เช่น อีเมล โฆษณา ตาราง) พร้อมชุดคำถาม
- เป็นส่วนที่ใช้เวลามากที่สุด และมีคะแนนเยอะที่สุด ต้องบริหารเวลาให้ดี
- เทคนิคสำคัญ: ควรอ่านคำถามก่อนอ่านเนื้อเรื่องเสมอ! จะทำให้รู้ว่าต้องมองหาข้อมูลอะไร (Skimming & Scanning) ไม่ต้องเสียเวลาอ่านทุกตัวอักษร
- ฝึกเทคนิค Skimming (อ่านเร็วๆ เพื่อจับใจความหลัก) และ Scanning (กวาดตามองหาข้อมูลเฉพาะ เช่น ชื่อคน สถานที่ ตัวเลข วันที่)
- ส่วน Multiple Passages มักจะยากและต้องเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายส่วน ควรเผื่อเวลาไว้ให้เพียงพอ
- หากทำ Part 5 และ 6 ได้เร็วกว่าแผน จะมีเวลาเหลือให้ Part 7 มากขึ้น
ข้อควรจำสำหรับพาร์ทอ่าน: หัวใจสำคัญคือการรักษาความเร็วใน Part 5 และ 6 เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับ Part 7 ซึ่งต้องใช้ทักษะการอ่านจับใจความและการหาข้อมูลที่ซับซ้อนกว่า
สรุป:
การบริหารเวลาสอบ TOEIC ให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และการวางแผนที่ดี การทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบ การจับเวลาทำข้อสอบเสมือนจริงบ่อยๆ และการใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละพาร์ท จะช่วยให้คุณสามารถทำข้อสอบได้ทันเวลาครบทั้ง 200 ข้อ ลดการเดาสุ่ม และเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนให้สูงขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบ TOEIC ครับ!
“`