คำเชื่อม (Connectors) พิชิต TOEIC: เชื่อมประโยคถูก ความหมายไม่เพี้ยน คะแนนพุ่ง!

“`html

คำเชื่อม (Connectors) พิชิต TOEIC: เชื่อมประโยคถูก ความหมายไม่เพี้ยน คะแนนพุ่ง! ใครที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC คงจะทราบดีว่า นอกจากคำศัพท์และไวยากรณ์แล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยอัพคะแนน โดยเฉพาะในส่วน Reading Comprehension (Parts 5, 6, และ 7) ก็คือความเข้าใจและการใช้ “คำเชื่อม” หรือ Connectors ได้อย่างถูกต้องนั่นเอง คำเชื่อมเหล่านี้เปรียบเสมือนกาวที่ช่วยเชื่อมประโยคหรือใจความต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เนื้อหาไหลลื่น สื่อความหมายได้ชัดเจน และที่สำคัญคือ ช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลในข้อสอบได้ดียิ่งขึ้น

ความสำคัญของคำเชื่อมในข้อสอบ TOEIC

คำเชื่อมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำข้อสอบ TOEIC เพราะ:

• ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ของประโยค: คำเชื่อมบอกเราว่าประโยคหรือส่วนของประโยคที่เชื่อมกันนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เช่น เป็นเหตุเป็นผลกัน ขัดแย้งกัน เพิ่มเติมข้อมูล หรือเป็นเงื่อนไขต่อกัน
• เป็นจุดวัดความเข้าใจใน Part 5 และ Part 6: ข้อสอบส่วน Incomplete Sentences (Part 5) และ Text Completion (Part 6) มักจะมีช่องว่างให้เติมคำเชื่อมที่เหมาะสม การเลือกคำเชื่อมที่ถูกต้องแสดงว่าเราเข้าใจบริบทและความต่อเนื่องของเนื้อหา
• ช่วยในการอ่านจับใจความใน Part 7: แม้ Part 7 Reading Comprehension จะไม่ได้ถามเรื่องคำเชื่อมโดยตรง แต่การเข้าใจความหมายของคำเชื่อมที่ปรากฏในบทความ จะช่วยให้เราจับใจความสำคัญและรายละเอียดของเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• ลดความผิดพลาดในการตีความ: การเลือกคำเชื่อมผิด อาจทำให้ตีความหมายของประโยคหรือย่อหน้าผิดเพี้ยนไป ซึ่งส่งผลต่อการตอบคำถามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้

ประเภทของคำเชื่อมที่พบบ่อยใน TOEIC

คำเชื่อมในภาษาอังกฤษมีหลายประเภท แต่กลุ่มที่มักจะเจอในข้อสอบ TOEIC บ่อยๆ ได้แก่:

1. คำเชื่อมแสดงเหตุผล (Cause and Effect): ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุและผลกัน
   • ตัวอย่าง: because, since, as, so, therefore, consequently, hence, thus, due to, owing to
   • Example: The flight was delayed because of the bad weather. / The company performed well; therefore, bonuses were awarded.
2. คำเชื่อมแสดงความขัดแย้ง (Contrast/Concession): ใช้เชื่อมประโยคที่มีใจความขัดแย้งกัน หรือยอมรับความจริงบางอย่างแม้จะมีอีกอย่างมาขัด
   • ตัวอย่าง: but, however, although, even though, though, despite, in spite of, nevertheless, nonetheless, while, whereas
   • Example: Although it rained, we enjoyed the picnic. / He worked hard; however, he did not get the promotion. / We went out despite the rain.
3. คำเชื่อมแสดงการเพิ่มเติมข้อมูล (Addition): ใช้เชื่อมประโยคเพื่อเสริมข้อมูล หรือกล่าวถึงสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
   • ตัวอย่าง: and, also, furthermore, moreover, in addition, besides, as well as
   • Example: The report is informative, and it is well-written. / He is fluent in English; moreover, he speaks French.
4. คำเชื่อมแสดงเงื่อนไข (Condition): ใช้เชื่อมประโยคที่แสดงเงื่อนไข หรือสมมติฐาน
   • ตัวอย่าง: if, unless, provided that, providing that, as long as, in case
   • Example: You can go to the party if you finish your homework. / Unless you study hard, you might fail the exam.
5. คำเชื่อมแสดงเวลา (Time): ใช้เชื่อมประโยคเพื่อบอกลำดับเวลา หรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์
   • ตัวอย่าง: when, while, before, after, since, until, as soon as, once
   • Example: Please turn off the lights before you leave. / I have been waiting here since 9 AM.
6. คำเชื่อมแสดงการยกตัวอย่าง (Example): ใช้เพื่อยกตัวอย่างประกอบสิ่งที่กล่าวมา
   • ตัวอย่าง: for example, for instance, such as
   • Example: We need office supplies, such as pens, paper, and notebooks.

เทคนิคการทำข้อสอบเรื่องคำเชื่อม

เพื่อให้สามารถเลือกคำเชื่อมได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ลองใช้เทคนิคเหล่านี้:

• อ่านประโยคหน้า-หลังช่องว่างให้เข้าใจ: พยายามทำความ เข้าใจบริบท และความหมายโดยรวมของประโยคหรือข้อความก่อนและหลังช่องว่าง
• วิเคราะห์ความสัมพันธ์: พิจารณาว่าใจความที่เชื่อมกันนั้นมีความสัมพันธ์เชิงตรรกะแบบใด (เหตุผล, ขัดแย้ง, เพิ่มเติม, เงื่อนไข, เวลา)
• สังเกตโครงสร้างประโยค: คำเชื่อมบางตัวมีข้อจำกัดทางไวยากรณ์ เช่น despite/in spite of ต้องตามด้วย Noun หรือ Gerund (V-ing) ในขณะที่ although/even though ต้องตามด้วย Clause (Subject + Verb) การสังเกต โครงสร้างประโยค ช่วยตัดตัวเลือกได้
• ตัดตัวเลือกที่ไม่เกี่ยวข้อง: กำจัดตัวเลือกที่มีความหมายหรือโครงสร้างไม่สอดคล้องกับบริบทออกไปก่อน
• ฝึกฝนทำโจทย์บ่อยๆ: การ ฝึกฝน ทำข้อสอบเก่าหรือแบบฝึกหัดเรื่องคำเชื่อมจะช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและคำเชื่อมที่ออกสอบบ่อย

สรุปแล้ว คำเชื่อม (Connectors) ถือเป็น หัวใจสำคัญ อย่างหนึ่งในการทำข้อสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนดี การทำความเข้าใจหน้าที่ ประเภท และการเลือกใช้คำเชื่อมอย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ทำข้อสอบ Parts 5 และ 6 ได้แม่นยำขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อความเข้าใจใน Part 7 อีกด้วย หมั่นทบทวนและฝึกฝนการใช้คำเชื่อม รับรองว่าคะแนน TOEIC ของคุณจะพุ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน!

“`