10 ศัพท์ ออก TOEIC สำหรับ Office

“`html

สวัสดีครับ ในฐานะนักเขียนที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปี ผมเข้าใจดีว่าการสื่อสารภาษาอังกฤษในที่ทำงานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ หรือผู้ที่ต้องใช้คะแนน TOEIC เพื่อยื่นสมัครงานในองค์กรชั้นนำต่างๆ วันนี้ผมจะมาแนะนำ 10 คำศัพท์ TOEIC ที่มักพบบ่อยและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานในออฟฟิศ พร้อมตัวอย่างการใช้งานเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

10 ศัพท์ TOEIC พิชิตงานออฟฟิศ ที่คุณต้องรู้!

คำศัพท์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณทำข้อสอบ TOEIC ได้คะแนนดีขึ้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย มาเริ่มกันเลยครับ

1. Agenda (อะเจนด้า) – วาระการประชุม

   หมายถึง รายการหัวข้อหรือเรื่องต่างๆ ที่จะพูดคุยหรือตัดสินใจในการประชุม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การประชุมดำเนินไปอย่างมีระเบียบและตรงประเด็น

   ตัวอย่าง: Please review the agenda before the meeting tomorrow. (โปรดทบทวนวาระการประชุมก่อนการประชุมในวันพรุ่งนี้)

   ตัวอย่าง: The first item on the agenda is the quarterly sales report. (หัวข้อแรกในวาระการประชุมคือรายงานยอดขายรายไตรมาส)

2. Postpone (โพสต์โพน) – เลื่อนออกไป

   หมายถึง การเลื่อนกำหนดการ นัดหมาย หรือกิจกรรมใดๆ ให้ช้าออกไปจากเดิม มักใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถดำเนินการตามกำหนดเดิมได้

   ตัวอย่าง: We have to postpone the client meeting until next Wednesday due to unforeseen circumstances. (เราจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมลูกค้าออกไปเป็นวันพุธหน้าเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน)

3. Deadline (เดดไลน์) – กำหนดส่งงาน/เส้นตาย

   หมายถึง วันหรือเวลาสุดท้ายที่งาน โครงการ หรือภารกิจใดๆ จะต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ การทำงานให้ทัน Deadline เป็นสิ่งสำคัญมากในโลกธุรกิจ

   ตัวอย่าง: The deadline for submitting the project proposal is this Friday at 5 PM. (กำหนดส่งข้อเสนอโครงการคือวันศุกร์นี้ เวลา 17:00 น.)

4. Implement (อิมพลีเมนต์) – นำไปปฏิบัติ/ดำเนินการ

   หมายถึง การทำให้แผนงาน นโยบาย หรือระบบใหม่ๆ เกิดขึ้นจริงและใช้งานได้จริง เป็นขั้นตอนหลังจากการวางแผน

   ตัวอย่าง: The company plans to implement a new customer relationship management (CRM) system next quarter. (บริษัทวางแผนที่จะนำระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ใหม่มาใช้ในไตรมาสหน้า)

5. Collaborate (คอลแลบบอเรท) – ร่วมมือกัน

   หมายถึง การทำงานร่วมกับบุคคลอื่นหรือทีมอื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน เป็นทักษะที่สำคัญมากในองค์กรยุคปัจจุบัน

   ตัวอย่าง: The marketing team will collaborate with the sales department on the new product launch. (ทีมการตลาดจะร่วมมือกับฝ่ายขายในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่)

6. Memo (Memorandum) (เมโม่/เมมโมแรนดัม) – บันทึกข้อความ

   เป็นเอกสารสั้นๆ ที่ใช้สื่อสารข้อมูลสำคัญ แจ้งข่าวสาร หรือให้คำแนะนำภายในองค์กร มักมีความเป็นทางการน้อยกว่าจดหมายธุรกิจ

   ตัวอย่าง: The HR manager sent out a memo regarding the new office dress code policy. (ผู้จัดการฝ่ายบุคคลส่งบันทึกข้อความเกี่ยวกับนโยบายการแต่งกายใหม่ของออฟฟิศ)

7. Budget (บัดเจท) – งบประมาณ

   หมายถึง แผนการเงินที่ประมาณการรายรับและรายจ่ายสำหรับโครงการ แผนก หรือทั้งองค์กรในช่วงเวลาที่กำหนด

   ตัวอย่าง: We need to allocate sufficient budget for employee training and development. (เราจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอสำหรับการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน)

8. Negotiate (นิโกชิเอท) – เจรจาต่อรอง

   คือกระบวนการพูดคุยเพื่อหาข้อตกลงหรือทางออกที่ทั้งสองฝ่ายหรือหลายฝ่ายพึงพอใจ มักใช้ในเรื่องสัญญา ข้อตกลงทางธุรกิจ หรือการแก้ไขข้อขัดแย้ง

   ตัวอย่าง: She is skilled at negotiating contracts with suppliers to get the best terms. (เธอมีทักษะในการเจรจาต่อรองสัญญากับซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด)

9. Recruit (รีครูท) – สรรหาบุคลากร

   หมายถึง กระบวนการค้นหา คัดเลือก และว่าจ้างบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาทำงานในตำแหน่งงานต่างๆ ขององค์กร

   ตัวอย่าง: Our company is currently trying to recruit experienced software engineers. (บริษัทของเรากำลังพยายามสรรหาวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีประสบการณ์)

10. Delegate (เดลิเกต) – มอบหมายงาน

    คือการมอบหมายความรับผิดชอบ อำนาจ หรือภาระงานให้แก่ผู้อื่น (ส่วนใหญ่มักเป็นลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา) เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ

    ตัวอย่าง: A good manager knows how to delegate tasks effectively to team members. (ผู้จัดการที่ดีจะรู้วิธีมอบหมายงานให้สมาชิกในทีมอย่างมีประสิทธิภาพ)

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการจำศัพท์:

• ทบทวนสม่ำเสมอ: การเจอคำศัพท์ซ้ำๆ ในบริบทต่างๆ จะช่วยให้จำได้แม่นยำขึ้น
• สร้างประโยคของตัวเอง: ลองนำคำศัพท์เหล่านี้ไปแต่งประโยคที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันหรืองานของคุณ
• ใช้ Flashcards: เป็นวิธีคลาสสิกที่ยังคงได้ผลดีในการท่องจำคำศัพท์
• อ่านและฟังภาษาอังกฤษในบริบทการทำงาน: เช่น อ่านอีเมลธุรกิจ รายงานการประชุม หรือฟัง Podcast เกี่ยวกับธุรกิจ จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการใช้คำศัพท์เหล่านี้มากขึ้น

การรู้และเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณทำคะแนน TOEIC ได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงได้อย่างเป็นมืออาชีพอีกด้วย ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต่อไปนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ!

“`